5 หนังให้มุมคิดคนทำงาน

27/01/2023 Happy8workplace Happy Relax 3,692
Share:

หลังจากวันทำงาน เมื่อถึงวันหยุด เราเชื่อว่าหลายคนคงจะนอนพักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลงกันแบบยาวๆไป ให้หายเครียด หายเหนื่อย เพื่อเติมพลังให้กับการทำงานสัปดาห์ถัดไป วันนี้เราได้รวบรวมหนัง 5 เรื่อง ที่ดูแล้วให้มุมคิดในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลทั้งโลกการทำงาน โลกส่วนตัว และโลกของครอบครัว ให้มีพลังสำหรับการลุกขึ้นไปทำงาน และใช้ชีวิต อย่างมีความสุข มีเรื่องอะไรกันบ้างไปดูกันค่ะ

 

1. Morning Glory

หนังโรแมนติก ฟีลกู๊ด สร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน เหมาะกับคนวัยทำงานมากๆ เพราะดูแล้วทำให้มีพลังในการทำงานต่อ เรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำงานของเบคกี้ (Rachel McAdams) โปรดิวเซอร์รายการข่าวเช้า ที่ต้องเข้ามาทำรายการในขณะที่เรตติ้งค่อนข้างต่ำ ไม่เป็นที่น่าสนใจ เพื่อนร่วมงานรอบตัวก็มีภาวะ Burnout Syndrome ตัวเธอจึงต้องเป็นผู้เข้ามากอบกู้ทุกอย่างให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ส่วนหนึ่งที่หนังแทรกเข้ามาเป็นระยะก็คือเรื่องของการทุ่มเทให้กับงานจนสุดตัว จนบางครั้งกว่าที่จะรู้ตัวมันก็ทำลายเรารวมถึงคนรอบข้างไปแล้ว ต้องกลายมาเป็นคนโดดเดี่ยวและเข้ากับใครไม่ค่อยได้ หรือ เบคกี้มัวแต่สนใจกับการทำงานเหมือนอยู่แต่ในโลกของตัวเองจนตัดสินใจหันหลังให้ความรักเพราะไม่อยากจะมารู้สึกผิดที่ตัวเองมัวแต่สนใจงาน เลยกลายเป็นตัดสินใจเลือกงานเพียงอย่างเดียวโดยไม่คิดจัดสรรเวลาส่วนตัว

หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับที่จะเปิดดูเพื่อคอยเตือนใจให้ตัวเองว่า…..ทุ่มเทกับงานได้แต่ก็อย่าลืมให้เวลากับคนรักหรือครอบครัวด้วยเมื่อจัดสรรลงตัวความสุขก็จะตามมาเอง

 

2. The Intern

The Intern เป็นเรื่องราวของ เบน วิทเทคเคอร์ วัย 70 ปี ซึ่งรับบทโดยโรเบิร์ต เดอ นีโร ที่เบื่อหน่ายกับชีวิตหลังเกษียณอยากกลับเข้าสู่การทำงานอีกครั้ง เขาเลือกสมัครไปเป็นพนักงานฝึกงานอาวุโส ที่บริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์ ซึ่งต้องปรับตัวอย่างมากทั้งเรื่องของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป และมีเพื่อนร่วมงานเป็นคนรุ่นลูกรุ่นหลาน เรียกได้ว่าช่วงแรกเจอภาวะ culture shock ไปเลย แต่เบนก็ไม่ปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างวัย เขาปรับตัวอย่างรวดเร็ว อาศัยประสบการณ์ที่สั่งสมคอยให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหา จนกลายเป็นขวัญใจของคนในออฟฟิศ แม้แต่จูลส์ เจ้าของบริษัท ที่ประสบปัญหา Work LifeBalance ก็ได้เบนเป็นผู้ช่วยในเรื่องของการจัดการชีวิตและครอบครัว

หนังเรื่องนี้ดูจะเหมาะกับองค์กรในยุคนี้เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างวัย แต่ก็สามารถเติมเต็มศักยภาพให้แก่กันได้ หากเปิดใจที่จะยอมรับและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน นอกจากนี้สิ่งที่หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เราเห็นเลยคงหนีไม่พ้นเรื่อง Work Life Balance ในชีวิต เพราะงานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต

 

3. ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ

เรื่องราวของยุ่น เป็นฟรีแลนซ์ที่มีชื่อเสียงและงานเข้าเยอะที่สุดในวงการ เขาทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับเป้าหมายและการท้าทายตัวเองเสมอ ให้งานเร็วขึ้น เก่งขึ้น ยากขึ้นไปเรื่อยๆ ยุ่นเคยทำสถิติอดนอน 5 วันเพื่อทำงานส่งลูกค้า ทำให้ยุ่นต้องพบกับปัญหาที่ไม่อาจเอาชนะได้คือร่างกาย การโหมทำงานหนักทำให้ร่างกายเริ่มประท้วง

ยุ่นสะท้อนให้เห็นภาพคนที่ทำงานหนักจนลืมใส่ใจสุขภาพ อดหลับ อดนอน จนร่างกายพังแม้ร่างกายจะส่งสัญญาณ จากฉากหนึ่งที่หมออิมนางเอกของเรื่องพูดว่า “นี่ร่างกายมันกำลังจะเล่นคุณแล้วนะ ข้างนอกยังเป็นแบบนี้ แล้วข้างในมันจะเน่าขนาดไหน? ” ทำให้คนทำงานอย่างเราต้องหันกลับมามองตัวเอง มองร่างกายตัวเองที่เคยว่า “เดี๋ยว” ค่อยทำก็ได้ และไม่จริงจังกับมันสักที จะส่งผลตามมาอย่างไร

หนังเรื่องนี้นั้นเหมาะกับวัยทำงานอย่างยิ่ง เพราะแฝงข้อคิดในเรื่องไว้มากมาย ในการทำงานนั้นแสดงให้ถึงการแบ่งเวลางานอย่างไม่ถูกต้อง โดยการทำงานอย่างหักโหมจนทำให้เสียสุขภาพ ถึงแม้จะเป็นงานที่รัก หรือ อยากทำมากจนเสียมันไปไม่ได้ก็ตาม แต่สุขภาพ ก็ควรมาเป็นอันดับหนึ่ง

 

4. Devil Wears Prada

หนังสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่าเด็กจบใหม่ และคนที่ยังคงมองหางานที่ใช่สำหรับตัวเอง หนังสนุกเกี่ยวกับเบื้องหลังวงการแฟชั่น ที่ถูกถ่ายทอดบทบาทตัวละครได้ดี ด้วยบทของบรรณาธิการหนังสือนิตยสารชื่อดังของนิวยอร์ก

“มิแรนด้า” กับผู้ช่วยจบใหม่อย่าง “แอนเดรีย”

แอนเดรีย นักศึกษาจบใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักหนังสือพิมพ์ แต่จับพลัดจับพลูได้กลายมาเป็นผู้ช่วยให้กับมิแรนด้า เจ้าแม่แห่งวงการแฟชั่น จอมบงการและเนี๊ยบเฉียบทุกดีเทล ซึ่งเป็นตำแหน่งงานที่เด็กสาวนับล้านคนใฝ่ฝันที่จะได้มัน เริ่มแรกแอนเดรียรู้สึกไม่เป็นตัวเอง แถมต้องคอยรับอารมณ์ฉุนเฉียวของมิแรนด้า แต่ในเมื่อได้งานนี้มาแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด แอนเดรียเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองจนคล้ายจะกลายเป็นมิแรนด้าขึ้นทุกที ในที่สุดเธอสามารถเป็นที่ยอมรับของมิแรนด้าได้ หนังเรื่องนี้ สะท้อนชีวิตการทำงานของมนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการทำงานในองค์กรใหญ่เพื่อสร้างโปรไฟล์ให้กับตัวเอง ความอดทนอดกลั้นกับเจ้านาย การรับมือกับเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ นอกจากนั้นหนังยังสะท้อนชีวิตจริงของคนที่ปล่อยให้

 

5. Spotlight

เรื่องราวเป็นทีมข่าว Spot light ของหนังสือพิมพ์ The Boston Globe ที่เข้าไปเจาะข่าวการละเมิดเพศของเด็กโดยบาทหลวงคาทอลิก ซึ่งเป็นข่าวหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 พวกเขานั้นก็ได้พบว่า การกลบเกลื่อนและปกปิดข่าวฉาวของสำนักบาทหลวงคาทอลิกบอสตันนั้น ได้รับการวางแผนอย่างเป็นระบบและทรงประสิทธิภาพจนน่าตกใจ พวกเขาถูกสำนักบาทหลวงขัดแข้งขัดขาทุกวิธีทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ทรงอำนาจในท้องถิ่น แต่ทีมก็ตัดสินใจตีพิมพ์บทความข่าวชิ้นนี้ในเดือนมกราคมปี 2002 และมันก็ได้กลายเป็นข่าวใหญ่สั่นสะเทือนวงการสงฆ์ทั้งประเทศ นำไปสู่การเปิดโปงกรณีล่วงละเมิดทางเพศที่เกี่ยวข้องกับผู้นำทางศาสนาอีกกว่า 200 เมืองทั่วโลก และข่าวชิ้นดังกล่าวชนะรางวัลข่าวสืบสวนยอดเยี่ยมพูลิตเซอร์ไพรซ์ไปครอง

หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นมุมของการทำงานอย่างมุ่งมั่นของทีม ที่จะทำให้การทำข่าวนั้นประสบความสำเร็จ ได้นำเสนอข่าวให้โลกได้รู้ อย่างน้อยการได้ลงมือทำไม่ย่อท้อต่อสิ่งที่ตั้งใจทำ จะนำไปสู้ความสำเร็จได้

 

หนังแต่ละเรื่องมีเนื้อเรื่องที่แตกต่าง ให้แง่มุมที่ทำให้เราได้คิดตามและยังสามารถนำไปปรับใช้กับตัวเองได้ การดูหนังดีๆสักเรื่องนั้น ถือว่าเป็นการให้รางวัลชีวิตรูปแบบหนึ่ง ลองหาเวลาเพื่อมอบสิ่งดีๆให้กับตัวเองกันดูนะคะ เพียงเวลาไม่กี่ชั่วโมงอาจทำให้คุณมีความสุขเพิ่มขึ้นได้ค่ะ

 

ที่มา

https://fiercebook.com/articles/7927

https://reviewdoonung.blogspot.com/

https://doctorkaygrow.wordpress.com/