เคยเจอแบบนี้ไหม เมื่อใกล้วันหยุด เริ่มรู้สึกถึงการจะได้พักผ่อน แต่พอถึงวันนั้นจริง ๆ กลับมีงานที่ต้องทำ เข้ามาซะงั้น กลายเป็น “วันหยุดที่ไม่ได้หยุด”

การทำงานที่ไม่จัดแบ่งเวลาให้ได้หยุดพัก ส่วนหนึ่งอาจมาจากความวิตกกังวลของเราเอง จนกลายเป็น “workaholic” หรือ คนคลั่งงาน พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ได้เป็นผลดีต่อสุขภาพ และยังส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงไปด้วย

การทำงาน Work แบบไร้ Balance จึงไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อคนทำงาน วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ จากหนังสือ  “Work Life Balance ด้วยการหยุดพักจริง ๆ” มาฝากกัน

• การเริ่มต้นที่ดีของการมี Work Life Balance ได้นั้นต้องเริ่มต้นจากการมีวันที่ดี

การได้สร้างช่วงเวลาที่สนุกสนานในวันพักผ่อน เราจะทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ ทำความสะอาดบ้าน หลีกเลี่ยงจากการทำงานให้ได้มากที่สุด ถ้ายังคิดไม่ออกว่าเรื่องสนุกคืออะไร อย่างน้อยลองทำตัวให้สดชื่น เพื่อให้ร่างกายแอคทีฟมากยิ่งขึ้นถ้าคิดว่าวันนั้นไม่สนุกเลย อาจจะเกิดจากการคาดหวังที่มากเกินไปของวันนั้น ให้ลองคิดว่า ดีจัง วันนี้วันหยุดได้พักผ่อน ไม่ต้องทำงาน

• การปรับวิธีนอนส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงาน

วิธีการที่จะทำให้หลับได้ไวขึ้น คือ ช่วงเช้าต้องสว่าง กลางคืนต้องมืด แสงแดดยามเช้าจะช่วยกระตุ้นการทำงานขอฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งจะหลั่งเมื่อเรานอนหลับ และช่วยปรับนาฬิกาชีวิต ส่วนแสงกลางคืนส่งผลกระทบให้นอนหลับลึกได้ยากขึ้น และการทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นก็ทำให้เป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น

• ชาร์จพลังทำงานสำหรับฟังก์ชั่นความจำใช้งาน (Working Memory) ด้วยการพักผ่อน

ในขณะที่เรารู้สึกวุ่นวาย เราจะสูญเสียแม้แต่ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ในการตัดสินใจและการจดจำ หากกล่าวให้ถูกต้อง คือ ยุ่งมากจนความจำที่ใช้ทำงานประสิทธิภาพต่ำลงหรือสูญเสียสมองไปนั่นเอง ซึ่งวิธีฟื้นฟูคือ ต้องพักผ่อน การพักผ่อนหรือหยุดพักชั่วครู่จะช่วยฟื้นฟูความจำใช้งานได้อย่างดี เช่น การงีบหรือพักสั้นๆในวันทำงาน 

• หาเวลาแค่ 5 นาที เพื่อทำสิ่งที่ชอบในเวลาทำงาน

หากนี่คือวันทำงาน อาจจะมีเสียงบ่นที่ว่า “งานเยอะแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปทำสิ่งที่ชอบได้อีก” แต่ถ้าหากได้ลองวางแผนกิจกรรมเคลื่อนไหวที่มักทำในวันหยุดมาทำในวันทำงานแม้เพียงเล็กน้อย น่าจะส่งผลเรื่องของแรงจูงใจของการทำงานในแต่ละวันไม่มากก็น้อย สำหรับคนที่สามารถหาเวลาทำเรื่องที่ตนเองชอบในวันทำงานได้ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ขอให้คุณทำต่อไป ลองพยายามจัดสรรเวลา      สั้น ๆ เหมือนช่วงข่าวสั้น 5 นาที ในโทรทัศน์เพื่อทำสิ่งที่ชอบดูจะเป็นสิ่งเล็กน้อยแค่ไหนก็ได้

ถึงแม้ว่าจะ Work life Balance ด้วยการพักจริง ๆ มักจะมาคู่กับความรู้สึกผิดว่าทำไม่เราเอาเวลาไปทำอย่างอื่น แทนที่จะเอามาทำงาน ความรู้สึกผิดเหล่านี้มีความสามารถพิเศษ สามารถกำจัดความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นออกไป จนทำให้เราต้องรู้สึกผิดเมื่อไม่ได้ทำงาน ดังนั้นเราจะต้องรู้จักถึงการผ่อนแรง หรือ Balance การทำงานให้เหมาะสม พักงานในช่วงเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รู้ว่าการพักผ่อนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผิด และเมื่อเราได้พักยังจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อีกด้วย

“คนพยายามที่รู้จักพักอย่างชาญฉลาด จะกลายเป็นนักพยายามที่สร้างผลงานได้ดีที่สุด”

ข้อมูลจาก หนังสือ “Work Life Balance ด้วยการหยุดพักจริง ๆ”