ภาวะความนับถือตนเองต่ำอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ เช่น การทำงาน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และสุขภาพจิต ผู้ที่ภาวะความนับถือตนเองต่ำอาจรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าแสดงออก หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม รู้สึกโดดเดี่ยว ซึมเศร้า หรือวิตกกังวล
หากพบว่าตนเองมีภาวะความนับถือตนเองต่ำ สามารถดูแลตัวเองได้ดังนี้
1. สำรวจความคิดและความรู้สึกของตนเอง
ขั้นแรก สำรวจความคิดและความรู้สึกของตนเองเกี่ยวกับตนเอง ว่าคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร บ่อยครั้งเรามักมีความคิดและความรู้สึกเชิงลบต่อตนเองโดยไม่รู้ตัว การสำรวจความคิดและความรู้สึกของตนเองจะช่วยให้เราเข้าใจสาเหตุของภาวะความนับถือตนเองต่ำ และเริ่มหาแนวทางแก้ไข
2. ปรับเปลี่ยนความคิดเชิงลบ
เมื่อเราเข้าใจสาเหตุของภาวะความนับถือตนเองต่ำแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการปรับเปลี่ยนความคิดเชิงลบ เปลี่ยนมุมมองให้มองตนเองในแง่บวกมากขึ้น ยอมรับข้อดีและข้อเสียของตนเอง มองความผิดพลาดเป็นบทเรียน แทนที่จะตำหนิตนเอง
3. ตั้งเป้าหมายและลงมือทำ
การตั้งเป้าหมายและลงมือทำจะช่วยให้เรามองเห็นความสามารถของตนเอง รู้สึกภาคภูมิใจในตนเองมากขึ้น เลือกเป้าหมายที่ท้าทายแต่ทำได้จริง ค่อยๆ ก้าวไปทีละขั้นอย่างมั่นคง
4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
การได้รับความรักและการสนับสนุนจากผู้อื่น จะช่วยให้เรารู้สึกดีกับตนเองมากขึ้น เลือกคบหากับคนที่เข้าใจและสนับสนุนเรา หลีกเลี่ยงการอยู่กับคนที่ทำให้รู้สึกแย่กับตนเอง
5. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
หากภาวะความนับถือตนเองต่ำส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตมาก แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยา หรือนักจิตบำบัด ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้เราเข้าใจและจัดการกับภาวะความนับถือตนเองต่ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาวะความนับถือตนเองต่ำเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ เริ่มต้นจากการสำรวจความคิดและความรู้สึกของตนเอง ปรับเปลี่ยนความคิดเชิงลบ ตั้งเป้าหมายและลงมือทำ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น และขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ หากเรามีความพยายามและอดทน จะสามารถพัฒนาความนับถือตนเองให้ดีขึ้นได้
ทั้งนี้ ผู้ที่มีภาวะความนับถือตนเองต่ำ อาจประสบปัญหาในการทำงาน เช่น
ดังนั้น การพัฒนาภาวะความนับถือตนเองจึงมีความสำคัญต่อการทำงาน ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข