โดยเฉพาะ สาว ๆ สายดื่ม หากดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำมีอัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งเต้านมได้เพราะ เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็น อะเซทัชดีไฮด์ (Acetaldehyde) ที่สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานระดับเซลล์ ระดับฮอร์โมนได้ โดยในร่างกายคนเราจะมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีมากในผู้หญิง และเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ควบคุมระบบการสืบพันธุ์ และลักษณะเด่นของผู้หญิง เมื่อเอสโตรเจนถูกกระตุ้นจนมีปริมาณมากกว่าปกติ จะไปเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมได้
โดยข้อมูลล่าสุดจากสมาคมการวิจัยเพื่อการป้องกันโรคมะเร็งประเทศสหรัฐอเมริกา (American Institute for Cancer Research) และกองทุนโลกเพื่อการวิจัยด้านมะเร็ง (World Cancer Research Fund) เปิดเผยถึงความเสี่ยงจากการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกวัน กับการเกิดมะเร็งเต้านมในสตรีวัยก่อน และหลังหมดประจำเดือน โดย Dr. Anne McTiernan หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบันวิจัยด้านมะเร็ง Fred Hutchinson ในซีแอทเทิล ได้กล่าวว่า “การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์วันละ 10 กรัม (เทียบเท่าไวน์ 1 แก้วเล็ก หรือ เบียร์ 240 ม.ล. หรือ สุรา 30 ม.ล.) เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมในสตรีวัยก่อนหมดประจำเดือน และหลังหมดประจำเดือนถึง 5% และ 9% ตามลำดับ”
นอกจากนั้นการดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้ผิวเสีย มีริ้วรอยก่อนวัยเพราะดื่มแล้วทำให้ปัสสาวะบ่อยจึงส่งผลให้ผิวแห้ง ร่างกายสูญเสียน้ำ และทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เกิดโรคอ้วน ลงพุง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เพราะแอลกอฮอล์ให้พลังงานสูงมากเกือบเท่าไขมัน โดยเฉพาะผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ผสมกับน้ำผลไม้หรือน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลมาก ก็ยิ่งเพิ่มพลังงานให้สูงขึ้นมากกว่าปกติ
เมื่อเห็นถึงโทษของแอลกอฮอล์แล้ว เพื่อลดความเสี่ยงทางด้านสุขภาพอย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว ทั้งมะเร็งเต้านม ปัญหาเรื่องความสวยความงาม ดังนั้นสาวสายดื่มควรลด ละ เลิก ดื่มแอลกอฮอล์หันไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า
ที่มา https://www.rama.mahidol.ac.th/cancer_center/th/content/07102019-1632-th
https://web.facebook.com/photo/?fbid=608094318135173&set=a.262033429407932&locale=th_TH