โลกการทำงานในยุค Digital Transformation ที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกสร้างขึ้นตลอดเวลา
ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา
ทำให้องค์กรต่างๆ ต้องขยับปรับตัวกันขนานใหญ่ องค์กรที่สามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้เท่านั้น ถึงจะสามารถอยู่รอดต่อไป นอกจากเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้ว คนทำงานในองค์กรก็จำเป็นต้องพัฒนาด้วยเช่นกัน และ Mindset ซึ่งคนทำงานควรต้องมี ได้แก่
เป็นความเชื่อ เป็นวิธีคิดที่ว่าความสามารถของนั้นเราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างไม่มีขีดจำกัด มีความยืดหยุ่นในกระบวนการความคิด และ ไม่ยึดติดอยู่กับปัญหาอุปสรรค ซึ่งตรงข้ามกันกับ Fixed Mindset ที่เชื่อว่าความสามารถ ความฉลาด เป็นของตายตัว ไม่สามารถพัฒนาต่อได้ด้วยตัวเอง ใครมีก็จะมี ใครไม่มีก็จะไม่มี คนที่มี Fixed Mindset มักจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่นำไปสู่ความล้มเหลว แต่ในขณะที่คนมี Growth Mindset จะเรียนรู้จากการล้มเหลวเพื่อพัฒนาต่อไป แล้วจะสร้าง Growth Mindset ได้อย่างไร
คือการเปลี่ยนมุมมองจากที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ให้ความสำคัญกับผู้อื่นไม่น้อยไปกว่าความสำคัญต่อตัวเราเองเป็นการมองในมุมของคนอื่น การปรับเปลี่ยน Mindset จึงเปรียบเสมือนการปรับเปลี่ยนเลนส์ในการมองโลก
มองตัวเรา และมองคนอื่น เป็นตัวสะท้อนทัศนคติที่ดี ซึ่งจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่ดี ที่ทำให้เราสามารถใช้ชีวิต
ไลฟ์สไตล์ และการทำงานได้อย่างเป็นสุขในทุกสถานการณ์
ยกตัวอย่างเช่น หากมีหัวหน้าที่มี Outward Mindset เขาจะมองลูกน้องทุกคนเป็นคนที่มีความต้องการและเป้าหมายชีวิตที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าของตัวเอง ส่งผลให้การแสดงออกที่เต็มไปด้วยความหวังดี ที่อยากให้เขาพัฒนายิ่งขึ้นหรือก้าวผ่านปัญหาต่างๆ ได้จริงๆ ช่วยให้ลูกน้องพัฒนาศักยภาพหรือพร้อมทำงานร่วมกันเป็นทีมอย่างเต็มใจและใช้ความสามารถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีความสุข
อริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน ได้กล่าวถึงคีย์เวิร์ดสำคัญของ Outward Mindset คือ S.A.M. ซึ่งย่อมาจาก
ทั้งนี้ วิธีดูง่าย ๆ ว่า เรามีกระบวนการคิดแบบ Outward Mindset หรือยัง ให้ลองสังเกตว่าตัวเรารู้เป้าหมายการทำงานของเพื่อนร่วมทีมหรือยัง ? เรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น หรือแบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนในทีมหรือไม่ ? หากเราเข้าใจเป้าหมายของคนในทีมและองค์กร มองความสำเร็จของ “พวกเรา” ไม่น้อยไปกว่า “ตัวเรา” นั่นก็แปลว่า เราเป็นคนที่มี Outward Mindset และเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นเรื่องง่ายขึ้น
คือแนวคิดการบริหารจัดการโลกการทำงานที่เน้นความคล่องตัว ว่องไว มีความยืดหยุ่นสูง มีการทำงานเป็นทีม
เพื่อร่วมแก้ปัญหา และกระตุ้นให้กล้าคิดที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์บรรลุเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วเท่าทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
การจะทำ Agile ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและประสบความสำเร็จนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ ถามตัวเองก่อนว่า ต้องการอะไรจาก Agile ? เพราะบางครั้ง หากในองค์กรไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ Agile ก็ได้ เพราะ Agile ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น และก็ไม่ได้เหมาะกับทุกองค์กรเสมอไป เพราะจริงๆ แล้ว Agile ไม่ใช่กระบวนการที่มีไว้เพื่อทำให้งานเร็วขึ้น แต่มันคือ Mindset ที่ทำให้ทุกคนไม่ต้องเกี่ยงงาน แต่รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โฟกัสที่ความรับผิดชอบของตัวเองเป็นหลัก และงานจึงเสร็จได้ง่ายขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องควบคู่ไปกับการมีวินัย (Discipline) ที่สูงมากด้วยเช่นกัน โดยแนวการทำงานแบบ Agile Mindset มีหลักการดังนี้
ปัจจุบันองค์กรชั้นนำต้องสร้าง Mindset ที่จำเป็นต่อโลกการทำงานยุคใหม่ให้กับบุคลากร เนื่องจากเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งรูปแบบธุรกิจใหม่ หรือกระทั่งนวัตกรรมใหม่ และที่สำคัญคือพฤติกรรม และความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว ดังนั้นหากแนวคิดของคนทำงานไม่พร้อมเปลี่ยน องค์กร และคนทำงานอาจถูก Disruption ได้ในที่สุด
ที่มา
https://careers.scb.co.th/.../career-tips-building.../
https://brandinside.asia/outward-mindset-by-seac/