“การเขียนความใฝ่ฝันและเป้าหมายของคุณลงบนกระดาษ คือการที่คุณได้วางแผนในสิ่งที่คุณต้องการจะเป็นที่สุดลงไปในนั้น จงให้อนาคตอยู่ในกำมือของคุณเอง” – มาร์ค วิกเตอร์ ฮานเซน

ทำงานมาได้สักระยะแล้ว หลายคนคงมีคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเราถึงไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้เสียที คงไม่มีความสำเร็จไหนที่จะได้มาอย่างง่าย ๆ คุณโหน่ง-วงศ์ทะนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร aday และ สำนักข่าว The Standard เคยกล่าวไว้ว่า “อย่าคาดหวังว่าจะได้ประสบการณ์ยิ่งใหญ่จากการเลือกทำแต่อะไรง่าย ๆ”

นั่นเพราะความสำเร็จย่อมต้องแลกมาด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท หากเป็นพุทธศาสนิกชนอาจจะคุ้นชินกับคำสอนเรื่องอิทธิบาท 4 ซึ่งเป็นหนทางไปสู่ความสำเร็จ ประกอบด้วย 1. ฉันทะ - ความพอใจ ความต้องการที่จะทำ ใฝ่ใจรักจะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอ และปรารถนาจะทำให้ ได้ผลดียิ่งๆขึ้นไป 2. วิริยะ-ความเพียร ขยันหมั่นประกอบสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน ไม่ท้อถอย 3.จิตตะ -ความคิด ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งนั้นด้วยความคิด ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป และ 4.วิมังสา -ความไตร่ตรอง หมั่นใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และตรวจสอบข้อบกพร่องในสิ่งที่ทำนั้น มีการวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง เป็นต้น

นอกจาก อิทธิบาท 4 ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่นำพาเราไปสู่ความสำเร็จได้แล้ว วันนี้เรายังมีเทคนิควิธีคิดที่จะให้คุณได้นำไปปรับใช้ได้ ดังนี้ ...

1. วาดภาพอนาคตในฝันของคุณ ลองเอาภาพที่คุณคิดฝันว่าอยากให้เป็นอย่างที่หวังมาตั้งไว้ แล้วดูว่าอะไรบ้างที่เรายังไม่ได้ทำ อันไหนควรจะเอามาทำให้เกิดขึ้นจริง

2. กล้าที่จะตัดสินใจลงมือทำ ความกล้าที่จะตัดสินใจลงมือทำ จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการเดินไปสู่ความสำเร็จ เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง หากเป็นเพียงความคิด ไม่ได้ลงมือทำ ก็ยากที่จะสำเร็จ

3. ถามตัวเอง การที่ถามตัวเอง และสามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ จะช่วยให้รู้ว่าจริงๆ ตัวคุณนั้นต้องการอะไร ซึ่งคำตอบนั้นจะเป็นเหมือนเข็มทิศที่นำทางชีวิตไปตามจุดหมายที่วางไว้

4. หาสิ่งที่ชอบให้เจอ ลองมองหาว่า อะไรที่เราทำแล้วสนุก หรือ ถนัดที่จะทำ พร้อมที่จะอยู่กับสิ่งนั้น อย่างเช่น เวลาไปห้องสมุด คุณเลือกที่จะเดินไปหาหนังสือหมวดไหนก่อน หรือ เวลาทำกิจกรรม ทำงานอะไร ที่มีความสุข เพลิดเพลิน หรือ เป็นความถนัดที่คุณสั่งสมมายาวนาน ลองนำสิ่งเหล่านี้มาปรับใช้ในการทำงาน หรือ สร้างเป็นอาชีพ

5. ค้นหาจุดแข็ง จุดอ่อนในตัวคุณ หากว่าคุณมีพรสวรรค์ในด้านไหน หรือ อะไรเป็นจุดเด่นของคุณ สิ่งเหล่านี้จะสามารถนำพาเราไปถึงเป้าหมายได้เพราะว่าสิ่งนั้นจะส่งผลไปถึงงานที่ทำ ในขณะเดียวกันก็ต้องค้นหาจุดอ่อนของเราให้เจอ แล้วปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

6. จัดลำดับความสำคัญให้เป็น จัดความสำคัญก่อนหลังกับการทำงานของตัวคุณเอง ควรต้องจัดประเภทว่างานนั้นเป็น งานสำคัญและเร่งด่วน งานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน งานไม่สำคัญแต่เร่งด่วน หรือ งานไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน แล้วลองสำรวจตัวคุณเองว่าที่ผ่านมาได้ให้เวลากับงานประเภทใดมากที่สุด หากพบว่าในช่วงเวลาการทำงานคุณใช้เวลาไปกับ งานไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน ก็คงต้องรีบปรับตารางการทำงานใหม่อย่างเร่งด่วน

7. ให้เวลากับตัวเอง ให้เวลากับตัวเองได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ หรือ เป็นเวลาพักผ่อนเพื่อให้ได้คิดทบทวนและนำไปพัฒนา หรือ ปรับแบบแผนการใช้ชีวิตให้เหมาะสมว่าต้องทำอะไรต่อไป

8. ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง เพราะการมีสุขภาพกายที่แข็งแรง คือ สิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ที่จะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้ การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ เป็นวิธีที่จะช่วยให้คุณเป็นคนที่มีวินัย และ เอาชนะข้อจำกัดของตัวคุณเองได้

9. สัญญากับตัวเองว่า “เราจะต้องพัฒนาขึ้นทุกวัน” การพัฒนาตัวเองตลอดเวลา พร้อมที่จะเป็นคนที่น้ำไม่เต็มแก้ว เปิดรับการเรียนรู้ใหม่ ๆ เสมอ ไม่ว่าจะจากการอ่านหนังสือ ฟัง podcast เข้าคอร์สฝึกอบรม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือคลังทางปัญญาที่จะทำให้คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จได้

อ่านจบแล้ว บทความนี้ หรือ คำคมสร้างแรงบันดาลใจ ที่เราชอบอ่าน ที่เพื่อนส่งต่อ ๆ มาให้ ใดใด จะไม่สามารถที่จะนำพาให้เราบรรลุถึงเป้าหมายที่เราได้วางไว้ หากเราไม่คิดที่ลงมือทำ รู้แล้วทำเถอะ

ที่มา

 www.th.jobsdb.com 

 www.marketingoops.com