สามเณร" ไทย อ้วน 22% เหตุ ฉันน้ำหวานมาก ขาดสื่อความรู้โภชนาการ

24/08/2022 Happy Body 2,798
Share:

เณรไทยอ้วน 22% สูงกว่าเด็กชายวัยเดียวกัน เหตุ ฉันน้ำหวานมาก-ผักน้อยเกิน คาด ขาดสื่อความรู้ด้านโภชนาการ สสส.-สช.-ม.บูรพา เตรียมลุยบรรจุหลักสูตร “เณรกล้า โภชนาดี” นำร่องปรับพฤติกรรม "สามเณร" ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม 33,000 รูป 

 

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2565 ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.นครปฐม นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าวว่า สช. ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย 7 องค์กร จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา มุ่งสานพลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหาสุขภาวะ พระสงฆ์

……….โดยเฉพาะสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่มีภาวะ โภชนาการเกิน ขาดความเอาใจใส่สุขอนามัยส่วนบุคคล และองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง ความร่วมมือครั้งนี้ มุ่งสร้างความตระหนักถึงปัญหา และแนวโน้มที่ผลกระทบส่งผลต่อสุขภาวะ เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพในโรงเรียนพระปริยัติธรรมให้มีสุขภาวะที่ดีและยั่งยืนต่อไป

………..ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการสำรวจสุขภาพสามเณรทั่วประเทศ พบสามเณรมีภาวะโภชนาการเกิน (ท้วม เริ่มอ้วน และอ้วน) 22% มากกว่าเด็กชายไทยที่มีภาวะโภชนาการเกินอยู่ที่ 18% เนื่องจากเลือกฉันอาหารประเภทผัด ทอด และขนมหวานจำนวนมาก   ที่สำคัญ ยังพบว่า ส่วนใหญ่เลือกฉันน้ำปานะที่มีน้ำตาลปริมาณสูง เช่น นมเปรี้ยว น้ำอัดลม ชาเขียว สะท้อนแนวโน้มปัญหาสุขภาพในระยะยาว  

…………..สสส. ร่วมกับ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาและภาคีเครือข่าย ริเริ่มโครงการการพัฒนาสื่อโภชนาการสามเณรสมวัย พัฒนานวัตกรรมสื่อองค์ความรู้ แนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการฉันอาหารของสามเณรที่เสริมสร้างสุขภาพที่ดี นำไปสู่การเป็นแกนนำความรู้ในการดูแลสุขภาวะเผยแพร่แก่ชุมชนและสังคมในวงกว้าง   “นวัตกรรมสื่อโภชนาการสามเณรสมวัย มี 4 รูปแบบ 1. ภาพนิ่ง (Infographic) 2. ภาพเคลื่อนไหว (Gifographic) 3. หนังสือชุดความรู้โภชนาการและการออกกำลังกาย 10 เล่ม 4. เว็บแอปพลิเคชัน เณรกล้า โภชนาดี ที่จะนำร่องใช้ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่มีสามเณรศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษากว่า 33,000 รูป ภายใน ธ.ค. นี้"  "โดยมีพระพี่เลี้ยงเป็นโค้ชเสริมการเรียนรู้ในวิชาสุขศึกษานอกห้องเรียน ถือเป็นหลักสูตรเสริมการเรียนการสอนควบคู่กับวิชาสายสามัญตามหลักสูตรขั้นพื้นฐานที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้กับการจัดการศึกษาแผนกธรรมและแผนกบาลี ช่วยให้มีความรู้ มีทักษะในการดูแลโภชนาการเพื่อให้สามเณรมีสุขภาวะที่ดี” 

 

 

……………..ศ.ดร.ภญ.จงจิตร อังคทะวานิช ผู้จัดการโครงการการพัฒนาสื่อโภชนาการ สามเณร สมวัย สสส. กล่าวว่า ทีมงาน ได้ร่วมกับ สสส. ริเริ่มโครงการสงฆ์ไทยไกลโรค ตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา ดำเนินโครงการ 6 โครงการ มีภาคีเครือข่าย 34 องค์กร โครงการการพัฒนาสื่อโภชนาการสามเณรสมวัยนั้นมีการทำงานกับคณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา  ถือเป็นอีก 1 โครงการที่สำคัญ เว็บแอปพลิเคชัน “เณรกล้า โภชนาดี” เป็นกึ่งเกมการแข่งขัน สามเณรสามารถใช้เว็บแอปพลิเคชันช่วยบันทึกพฤติกรรมการฉันอาหารและออกกำลังกายของตนเอง เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ภาคการศึกษา โดยมีสื่อให้ความรู้ แรงบันดาลใจ และระบุเป้าหมายชัดเจนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีคะแนนสะสม ให้ความชื่นชมด้วยเหรียญและโล่รางวัลออนไลน์ ภายใต้การติดตาม ดูแล ประเมินผลโดยพระพี่เลี้ยง

……………..กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ “การสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา” ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยมี พระราชวัชราภรณ์ ประธานกรรมการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เป็นประธานในพิธี ณ ห้องประชุมอาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จังหวัดนครปฐม

          นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ร่วมลงนามบันทึกในครั้งนี้ เพื่อสร้างภาคีความร่วมมือด้านการขับเคลื่อนสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีความร่วมมือ ร่วมกับพระสงฆ์ สามเณร และบุคลากรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ชุมชน และสังคม ในการพัฒนาและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม โดยบทบาทของกรมอนามัยดำเนินการ ดังนี้ 1) สนับสนุนชุดองค์ความรู้สำหรับส่งเสริมสุขภาพ และพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ และสามเณร ให้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีทักษะสุขภาพ ทักษะชีวิต และพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ 2) ประสานงานกับหน่วยงานภายในสังกัดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่เกี่ยวข้อง  กับการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ รวมถึงสนับสนุนบุคลากร สถานที่ เวลา และทรัพยากรอื่น ๆ ตามความเหมาะสม 3) ประสานขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์ รับฟังความคิดเห็น และประมวลข้อเสน จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาแนวทางการส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์และสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา และ 4) สนับสนุนการติดตามการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาสุขภาพของพระสงฆ์และสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา

            “ทั้งนี้ กรมอนามัยสนับสนุนการสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ดังนี้ 1) จัดทำธรรมนูญสุขภาพโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ระดับนโยบาย 1 ฉบับ ระดับเขต (นโยบายและแนวปฏิบัติระดับเขต) 14 เขต/ฉบับ และโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา (ข้อตกลงร่วม) 407 โรงเรียน/ฉบับ 2) ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา สู่การปฏิบัติ และ 3) ติดตามผลการดำเนินงาน และสรุปบทเรียนการสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา”