ในช่วงระหว่างเทศกาลกินเจซึ่งหลาย ๆ คนถือโอกาสนี้หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
ซึ่งการกินเจอย่างถูกต้องและเหมาะสมสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพได้หลายประการ เช่น
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง
- ช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากอาหารเจมักมีปริมาณไขมันและแคลอรีต่ำกว่าอาหารทั่วไป
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
อย่างไรก็ตาม การกินเจก็อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานอาหารเจที่หลากหลายและครบถ้วน
เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย วันนี้จะขอแนะนำเคล็ดลับการกินเจที่ดีต่อทั้งกายและใจ ดังนี้
- รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ โดยเลือกรับประทานโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลือง ถั่วชนิดต่าง ๆ เต้าหู้ งา เมล็ดพืช และธัญพืชไม่ขัดสี
- เลือกรับประทานผักและผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อให้ได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเจที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น อาหารทอด อาหารแปรรูป และอาหารที่มีไขมันพืชเติม
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเจที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารสำเร็จรูป อาหารหมักดอง และอาหารที่มีซอสปรุงรสเข้มข้น
ตัวอย่างเมนูอาหารเจ
- อาหารเช้า : โจ๊กข้าวกล้องใส่ถั่วเหลือง ข้าวต้มมัด ขนมปังปิ้งทาเนยถั่ว
- อาหารกลางวัน : แกงเขียวหวานเต้าหู้ ข้าวกล้องผัดผัก ยำมะม่วง
- อาหารเย็น : ต้มยำเห็ด สปาเก็ตตี้ผัดผัก ข้าวผัดผักรวมมิตร
ข้อควรระวังในการกินเจ
- การได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ โปรตีนจากพืชมักมีปริมาณโปรตีนน้อยกว่าโปรตีนจากสัตว์ ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานโปรตีนจากพืชให้หลากหลาย เช่น ถั่วเหลือง ถั่วชนิดต่าง ๆ เต้าหู้ งา เมล็ดพืช และธัญพืชไม่ขัดสี
- การได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ธาตุเหล็กจากพืชมักดูดซึมได้น้อยกว่าธาตุเหล็กจากสัตว์ ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานธาตุเหล็กจากพืชร่วมกับวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น รับประทานถั่วลิสงหรือถั่วเหลืองคู่กับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
- การได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ แคลเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพกระดูกและฟัน แคลเซียมจากพืชมักมีปริมาณแคลเซียมน้อยกว่าแคลเซียมจากสัตว์ ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานแคลเซียมจากพืชให้หลากหลาย เช่น งาดำ ผักใบเขียว ถั่วเหลือง และเต้าหู้
- การได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอ วิตามินบี 12 เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและการสร้างเม็ดเลือดแดง วิตามินบี 12 พบได้ในอาหารจากสัตว์เท่านั้น ดังนั้นผู้ที่กินเจอาจได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอ จึงควรรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีวิตามินบี 12
เทศกาลกินเจไม่ได้เป็นเพียงประเพณีทางวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกวิธีที่ช่วยเป็นเส้นทางที่ทำให้เราหันมาดูแลสุขภาพได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ถ้าคุณสามารถปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม การกินเจอย่างถูกต้องและเหมาะสมสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพได้หลายประการ