ถอดแนวคิด 3 องค์กรต้นแบบ “งดเหล้าเข้าพรรษาในที่ทำงาน” เปลี่ยนนักดื่มให้เป็นพนักงานดีเด่น

18/07/2025 กิจกรรมที่น่าสนใจ, ข่าวประชาสัมพันธ์ 4,005
Share:

 

ถอดบทเรียนความสำเร็จของ 3 องค์กรต้นแบบที่นำแนวคิดองค์กรสุขภาวะ “Happy Workplace” มาใช้ในการขับเคลื่อนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาในสถานประกอบการ เพื่อส่งเสริมให้พนักงานลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอกอฮอลล์ นอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวด้วย

หากเอ่ยถึง “เทศกาลเข้าพรรษา” ส่วนใหญ่คงนึกถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่คนไทยจำนวนมากมุ่งเน้นในการทำความดี ละเว้นความชั่ว ตลอดจนหลีกเลี่ยงอบายมุขอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ดี

ไม่เว้นแม้แต่ในองค์กร ต่างใช้โอกาสนี้ในการขับเคลื่อนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้พนักงานทุกคนงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เป็นเวลา 3 เดือน แต่ใครจะเชื่อว่าผลสำเร็จที่เกิดขึ้นตามมานั้นน่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะได้สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองใหม่

“งดเหล้าเข้าพรรษาในที่ทำงาน” จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่

คุณวันชัย สุวรรณมณี อุปนายกสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร ในฐานะอดีตผู้จัดการแผนกกิจกรรมและพนักงานสัมพันธ์ บริษัทสามมิตรมอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเคยขับเคลื่อนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาในองค์กรตัวเองจนประสบความสำเร็จ

“จุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาของบริษัทสามมิตรมอเตอร์ส มาจากการที่เล็งเห็นว่าบริษัทเราผลิตรถขนาดใหญ่ เช่น รถพ่วง รถบรรทุก รถดั๊ม แล้วกลุ่มพนักงานส่วนใหญ่คือแรงงานชาย หลายคนมีพฤติกรรมชอบดื่มเป็นประจำ ด้วยความที่เราใช้แนวคิดองค์กรสุขภาวะ (Happy Workplace) สร้างความสุขให้เกิดขึ้นในที่ทำงาน จึงมีไอเดียที่อยากจะส่งเสริมพนักงานให้มีสุขภาพกายและสุขภาพใจแข็งแรง”

เทศกาลเข้าพรรษาจึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมในการ “งดชนแก้ว”ชั่วคราว ประกอบกับพนักงานสายดื่มส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ทุกคนรับรู้ถึงพิษภัยจากการดื่มเหล้าว่าส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร และอยากหาเวลา “พักตับ” อยู่แล้ว จึงฉวยโอกาสนี้งดเหล้าอย่างจริงจัง นอกจากช่วยฟื้นฟูร่างกายแล้ว ยังประหยัดเงินในกระเป๋า ที่สำคัญคือได้บุญด้วย

“เราเริ่มโน้มน้าวพนักงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายให้มาเข้าร่วมโครงการ มีการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องการลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ นำสถิติตัวเลขเรื่องอุบัติเหตุเมาแล้วขับ รวมถึงโรคภัยที่มีสาเหตุจากเหล้าเบียร์มากระตุ้นให้เกิดความตระหนัก พนักงานที่เข้าร่วมโครงการทุกคนสาบานตนว่าจะไม่แตะต้องเครื่องดื่มเป็นเวลา 3 เดือน ขณะเดียวกันเราก็จัดซื้อเครื่องวัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มาสุ่มตรวจพนักงาน เพื่อทดสอบว่าคุณมุ่งมั่นตั้งใจจริงไหม”

“นอกจากนี้เรายังสร้างแรงจูงใจด้วยการมอบรางวัลบุคคลต้นแบบให้แก่พนักงานที่ทำได้สำเร็จ โดยมีผู้บริหารมามอบประกาศนียบัตร มอบเสื้อที่ระลึกเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งของรางวัลเราได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่างๆ ของ สสส. โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของบริษัทเลย”

คุณวันชัย กล่าวว่า หลังจากดำเนินโครงการงดเหล้าเข้าพรรษาในบริษัทสามมิตรมอเตอร์สมาตลอด 6 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ.2560-2565 มีพนักงานให้ความสนใจเข้าร่วมมากขึ้นทุกปี โดยปีแรก มีผู้เข้าร่วมโครงการ 23 คน ปีที่ 2 จำนวน 50 คน ปีที่ 3 จำนวน 103 คน ปีที่ 4 จำนวน 87 คน ปีที่ 5 จำนวน 64 คน และปีที่ 6 จำนวน 87 คน สะท้อนว่าการรณรงค์เรื่องการงดดื่มสุราในสถานที่ประกอบการถือว่าประสบผลสำเร็จเกินคาด สามารถกระตุ้นให้พนักงานหลายคนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“ผลสำเร็จที่ตามมาหลังจบโครงการ มีหลายคนมีแผนจะเลิกดื่มเด็ดขาดเลย บางคนเลิกเหล้าได้แล้วก็พลอยเลิกบุหรี่ไปด้วย เพราะเขาเพิ่งมีลูกน้อย การเลิกขาดกับอบายมุขทำให้เขามีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น แทนที่จะเอาเวลาไปดื่มสังสรรค์หลังเลิกงาน ตัดค่าเหล้าและค่าบุหรี่ได้มากกว่าหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน มีเงินซื้อนม ซื้อแพมเพิร์สให้ลูก นี่คือเรื่องทำให้เรารู้สึกภูมิใจมากๆ”

ปัจจุบัน คุณวันชัยลาออกจากบริษัทสามมิตรมอเตอร์ส มารับตำแหน่งอุปนายกสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร มีหน้าที่รับผิดชอบในการขับเคลื่อนกิจกรรมที่ช่วยสร้างองค์กรสุขภาวะให้กับหน่วยงานต่างๆ โดยรณรงค์ให้พนักงานในองค์กรลด ละ เลิกเหล้าและบุหรี่ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (NCDs) โดยมีภาคีเครือข่ายต่างๆ เคยอยู่ในการดูแลมากกว่า 200 องค์กร

“ถามว่าเบื้องหลังความสำเร็จคืออะไร เรามองว่าการทำงานนี้ต้องมีจิตอาสา การมีจิตอาสาทำให้เรากล้าที่จะทำเพื่อคนอื่นมากกว่าทำเพื่อตัวเอง เรายังรู้สึกว่าการทำงานนี้เป็นการทำบุญ ทำให้สุขภาพเขาดีขึ้น ช่วยลดปัจจัยความเสี่ยงกลุ่มโรคที่จะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการดื่ม รวมถึงอุบัติเหตุต่างๆ ถ้าทำให้เขาเลิกได้ก็หมายความว่าเราช่วยให้คนคนหนึ่งมีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีขึ้น ทำให้เขามี Value กับองค์กรมากขึ้น เหนืออื่นใดทำให้เขาเป็นพ่อ เป็นสามี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่แข็งแรง อยู่กับครอบครัวต่อไปได้นานๆ”

ผสานไม้แข็ง-ไม้อ่อน สร้างวัฒนธรรมองค์กรสุดสตรอง

คุณเอกชัย อิสสรา ผู้จัดการฝ่ายบุคคล บริษัทไทยเม็ททอล อลูมิเนียม จำกัด หนึ่งในบุคคลที่ขับเคลื่อนกิจกรรมงดเหล้าในสถานประกอบการของตัวเอง ด้วยการใช้ “ไม้แข็ง” คือมาตรการที่เข้มงวดกวดขัน ผสานกับ “ไม้อ่อน” คือการสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

“ด้วยความที่เราเป็นโรงงานผลิตอลูมิเนียม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหนัก มีเครื่องจักรเยอะ ทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายต่อการเกิดอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน หากพนักงานดื่มเหล้ามาจนพักผ่อนน้อย ทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือประมาทเลินเล่อ เราจึงต้องการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง”

เริ่มจากการจัดซื้อเครื่องตรวจวัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มาใช้ทดสอบพนักงานก่อนเข้างาน โดยกำหนดปริมาณค่าแอลกอฮอลล์ไว้ที่ 30 มิลลิกรัม ต่อมาเพิ่มเป็น 50 มิลลิกรัมตามที่กฎหมายกำหนด หากตรวจพบจะไม่อนุญาตเข้าทำงานและมีการพิจารณาลงโทษตามความเหมาะสม กระทั่งปี 2567 มีการเพิ่มความเข้มงวดระดับสูงสุดคือต้องไม่มีปริมาณแอลกอฮอลล์อยู่ในร่างกายเลยแม้แต่มิลลิกรัมเดียว

“ช่วงแรกเรานำกฎระเบียบเข้มงวดมาใช้ ด้วยการนำเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์มาให้พนักงานเป่าก่อนเข้ากะ ใครดื่มมาหรือมีอาการเมาค้างแฮงค์ เช่น ตาแดงก่ำ มีกลิ่นเหล้าโชย ก็จะให้กลับบ้านทันที ไม่ให้เข้าทำงานเด็ดขาด โดยจะทำการตักเตือนลงโทษด้วย”

“ขณะเดียวกันเราก็รณรงค์ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ บุหรี่ และยาเสพติด จนเพิ่งมาเริ่มจัดกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาเมื่อ 2 ปีก่อน โดยพยายามโน้มน้าวให้เห็นถึงข้อดีของการงดเหล้าเข้าพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน ว่าสามารถออมเงินได้เท่าไหร่ จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาดีขึ้นอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในที่ทำงานที่เราให้ความสำคัญมาก นอกจากนี้ยังสร้างแรงจูงใจด้วยการเชิดชูให้เป็นบุคคลต้นแบบ มอบโบนัสความปลอดภัยให้เป็นเงินพิเศษสำหรับทุกคน หากปีนั้นไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลย”

คุณเอกชัย กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกที่เกิดขึ้นคือพนักงานสายดื่มหลายคนลดการดื่มได้จริง จากเคยยกแก้วทุกวันกลายมาเป็นดื่มสังสรรค์เฉพาะช่วงเทศกาลรื่นเริง บางคนตั้งใจจะเข้าร่วมกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาเป็นประจำทุกปี ยังไม่นับรวมสถิติการขาด ลา มาสายที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันค่อยๆ เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรเราไปเลยครับ พนักงานสุขภาพดีขึ้น มีเงินออมเพิ่มขึ้น แถมประสิทธิภาพการทำงานก็กลับมาเต็มที่ ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำงานก็ลดลงด้วย เรียกว่าวิน-วินกันทุกฝ่าย”

ดึงผู้บริหารเข้ามีส่วนร่วมได้ มีชัยไปกว่าครึ่ง

คุณภัทรพร นันทะพา หัวหน้าส่วนแรงงานสัมพันธ์ บริษัทไทยโคโค่นัท จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งองค์กรต้นแบบด้านการรณรงค์โครงการงดเหล้าเข้าพรรษาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เธอยืนยันว่า เบื้องหลังความสำเร็จคือได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้บริหาร

“จุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนเรื่องงดเหล้าและบุหรี่คืออยากให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีค่ะ ผู้บริหารไม่อยากเห็นพนักงานต้องมาเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ ช่วงแรกก็มีการณรงค์เรื่องการไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า นอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพ ยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ในระยะสั้นอาจส่งผลเสียต่อการทำงาน แต่ในระยะยาวมันทำลายสุขภาพอย่างร้ายแรง ยังไม่นับผลกระทบต่อครอบครัว การเงิน และอื่นๆ ที่มองไม่เห็น”

ในฐานะคนทำงานด้านทรัพยากรบุคคล หรือ Human Resource (HR) คุณภัทราพรมองว่า การขับเคลื่อนโครงการอะไรก็ตามที่ต้องการชักจูงให้พนักงานทั้งองค์กรให้ความร่วมมือ จะปล่อยให้ฝ่าย HR ทำงานอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ ดังนั้นผู้บริหารบริษัทไทยโคโค่นัท จึงเห็นชอบให้มีการ Cross-Functional Team หรือการที่มีตัวแทนจากแผนกต่างๆ มาทำงานร่วมกัน ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาในสถานประกอบการ

“ผลดีคือเรามีตัวแทนจากทุกแผนกเข้ามาอยู่ในคณะทำงาน เวลาประชุมกันว่าจะจัดกิจกรรมอะไร หรืออยากขับเคลื่อนเรื่องอะไร ทุกฝ่ายจะรับรู้ ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และพร้อมใจกันสื่อสารให้พนักงานของตัวเองได้เข้าใจง่ายขึ้น อย่างสมัยก่อนเวลาเราจะจัดอบรมอะไรแล้วขอให้คนมาเข้าร่วม มักจะไม่มีใครว่าง แต่พอมีตัวแทนคณะทำงานไปสื่อสารบอกต่อถึงความสำคัญของกิจกรรมที่เรากำลังทำ เขาก็ให้ความร่วมมือมากขึ้น”

“โครงการงดเหล้าเข้าพรรษา มีคนมาลงชื่อสมัครเข้าร่วมโครงการเยอะเลย เราจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ การมอบรางวัลเพื่อสร้างแรงจูงใจ เช่น ถ้าผลตรวจไม่มีแอลกอฮอลล์เลย จะได้เงิน 400 บาททุกเดือน รวมถึงการให้มีบัดดี้หรือเพื่อนคู่หู คอยกระตุ้นเตือน ให้กำลังใจ สนับสนุนกันและกัน วิธีนี้ช่วยให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้น”

คุณภัทรพร ฝากทิ้งท้ายว่า อยากให้กำลังใจทุกองค์กรที่กำลังขับเคลื่อนเรื่องการไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หรือแม้แต่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว พร้อมทั้งบรรลุเป้าหมายในการเป็นองค์กรสุขภาวะ หรือ Happy Workplace

“ที่ผ่านมาเราได้เรียนรู้ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากองค์กรอื่นๆ ได้ฟังประสบการณ์ที่ทุกคนถ่ายทอด ทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ได้แรงบันดาลใจด้วย เชื่อว่าทุกการเปลี่ยนแปลงยากทั้งนั้น เราจึงต้องทำให้พนักงานหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเขาเอง จริงอยู่ที่พฤติกรรมการสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้ามันเลิกยาก แต่ถ้าทำให้เขาเห็นว่าหากสามารถเอาชนะใจตัวเองได้ มันจะเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนครอบครัว เปลี่ยนสถานะทางการเงินของเขาได้อย่างมหาศาล”

สำหรับใครที่สนใจอยากลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ สามารถโทรขอคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนเลิกเหล้า 1413 หรือปรึกษาออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.1413.in.th

 

หรือทาง Chatbot น้องตั้งใจ Line@1413 สายด่วนเลิกเหล้า นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยังเชิญชวนให้ทุกคนร่วมลงนามงดเหล้าเข้าพรรษาปฏิญาณตนออนไลน์ https://noalcohol.ddc.moph.go.th/

 

คลิกเลย