เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธินวัตกรรมเพื่อสังคม ได้จัดประชุมเสวนาออนไลน์ ในหัวข้อ “มาตรการส่งเสริมการลงทุน (ลดภาษี) เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม” ขึ้นให้กับผู้ที่สนใจ

รับฟังออนไลน์ผ่านคุณพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร (สำนัก8 ) รับหน้าที่พิธีกร และ คุณอภิชาติ การุณกรสกุล ประธานกรรมการมูลนิธินวัตกรรมเพื่อสังคมเป็นวิทยากรผู้ให้ความรู้

งานดังกล่าวได้พูดถึงเรื่องสิทธิพิเศษสำหรับองค์กรที่จะนำมาตรการลดหย่อนภาษีสูงสุดไปใช้ โดยผู้อำนวยการพงษ์ศักดิ์กล่าวเปิดประเด็นถึงมาตราการลดย่อนภาษีดังกล่าวว่า

“มีหลายองค์กรที่สนใจในเรื่องนี้อยู่แล้ว และที่รู้มาหลายหน่วยงานก็ยังไม่ทราบว่ามีมาตราการในเรื่องของการลดภาษีแบบนี้ เพื่อใช้พัฒนาชุมชนและสังคม ซึ่งเป็นมาตราการที่จะสร้างแรงจูงใจที่ดีให้กับองค์กรที่ทำเรื่องการพัฒนาชุมชนและสังคม ผมเลยอยากถามและพูดคุยขอคำแนะนำจากคุณอภิชาติซึ่งมาเป็นวิทยากรในวันนี้”

ทางด้านอภิชาติเองได้อธิบายถึงเรื่องการใช้ประโยชน์จากมาตราการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมดังกล่าวว่า สูตรลดภาษีดังกล่าวเกิดมาจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI

“มาตราการนี้ถือเป็นความพิเศษมากๆ เพราะได้สิทธิประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลถึง 120 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก เป็นการกระตุ้นให้ภาคส่วนต่างๆ หันมาสนใจ ซึ่งมาตราการนี้มุมมองคืออยากเห็นภาคธุรกิจเอางบประมาณไปช่วยลงทุน เพื่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนและสังคมในมิติต่างๆ

“ซึ่งการยกเว้นภาษี 120 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับองค์กรสารมารถหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับมาตราการภาษีอื่นๆ ที่เคยมีมา ครอบคลุม 10 หมวดอุตสาหกรรม โดยมีขอบข่ายกิจกรรมที่สนับสนุน 6 ด้าน ได้แก่ 1) พัฒนาด้านการเกษตร 2.) พัฒนาการบริหารการจัดการน้ำแบบองค์รวม 3.) พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน/OTOP 4) พัฒนาด้านการท่องเที่ยวชุมชน 5)พัฒนาด้านการศึกษา

สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อมในชุมชน 6)การลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งมีข้อกำหนดว่าธุรกิจ นั้นๆต้องเข้าเกณฑ์อะไรบ้าง ทั้งนี้องค์กรสามารถเข้าไปศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.boi.go.th/th/grassroot

ในการเสวนาออนไลน์ยังมีรายละเอียดของโครงการที่ผ่าน BOI ซึ่งเป็นตัวอย่างโครงการที่น่าสนใจและถูกทำให้เกิดเป็นการพัฒนาชุมชนและสังคมคือโครงการที่สนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตัวโครงการให้การสนับสนุนจัดหาเครื่องมือแพทย์กับโรงพยาบาลประจำจังหวัดกว่า 21 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค มีมูลค่ากว่า 200 ล้าน แน่นอนว่าตัวโครงการที่ทำได้ยกระดับของระบบสุขภาพให้กับประชาชนในแต่ละจังหวัด และภาคเอกชนที่เข้าร่วมก็สามารถนำไปยกเว้นภาษีได้ ซึ่งนั่นเป็นเพียงตัวอย่างโครงการเดียว ที่ทำให้เห็นภาพกว้างของสูตรลดภาษี เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมดังกล่าว

ในวงเสวนาทั้งสองท่านกล่าวสรุปปิดท้ายว่า เมื่อหลายๆ องค์กร เข้าใจในเงื่อนไขและมาเข้าร่วม จะเกิดเป็นการพัฒนาชุมชนครั้งใหญ่และเกิดประโยชน์กับสังคมอย่างมาก หากองค์กรใดสนใจพัฒนาโครงการหรือสถานประกอบการที่สนใจในมาตราการลดหย่อนภาษีสูงสุดดังกล่าว ทางมูลนิธินวัตกรรมทางสังคมยินดีให้คำปรึกษา พร้อมขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการลงทุนเชิงรุก เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมไปด้วยกัน

สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม