สสส.จับมือ มธ. เดินหน้าสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต” จัดแถลงความสำเร็จโครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต “Future Wellness University” พร้อมโชว์นวัตกรรม TU Future Wellness App เครื่องมือดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ให้บริการแล้วกว่า 6,000 คน พร้อมเป็นต้นแบบให้กับสถานศึกษาอื่น ๆ ต่อไป
วันที่ 5 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี – สำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร (สำนัก 8 ) สสส. ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ร่วมกับ แถลงข่าว “เวทีสรุปบทเรียนและความสำเร็จโครงการมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต” Future Wellness University: Closing Press Conference ภายในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการภายใต้แนวคิด “Wellness Journey” ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของโครงการ อธิบายที่มาและแรงบันดาลใจในการสร้างพื้นที่ดูแลชีวิตของนักศึกษาและบุคลากร การนำเสนอกิจกรรมและการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะ จนถึงผลสัมฤทธิ์เชิงระบบที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านนโยบาย การยกระดับการดูแลสุขภาพ และการสร้างวัฒนธรรมสุขภาวะที่ยั่งยืนในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย
นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร (สำนัก 8) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การสนับสนุนโครงการฯนี้ เกิดจากความสอดคล้องเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างโครงการกับพันธกิจหลักของ สสส. ในการขับเคลื่อนสังคมให้มีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในอนาคต โดย สสส. ได้ร่วมสนับสนุนในมิติต่างๆ รวมถึงให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน ความสำเร็จของโครงการสะท้อนถึงพลังความร่วมมือระหว่างผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และภาคีเครือข่าย ที่ทำให้แนวคิดเรื่องสุขภาวะ ก้าวออกจากนโยบายสู่การปฏิบัติที่เป็นจริง ผลลัพธ์ของโครงการฯ ยังส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมและสุขภาพ ที่ลดปัจจัยเสี่ยงและสร้างวินัยสุขภาวะ
“นอกจากนี้ ยังผลักดันให้เกิดระบบและนโยบายมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต เป็นกรอบการดำเนินงานด้านสุขภาวะในระดับมหาวิทยาลัย พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีผ่านแอปพลิเคชัน TU Future Wellness และต่อยอดสู่ความยั่งยืน ผ่านการบูรณาการกับยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับนโยบายของอธิการบดีมธ. และสัมพันธ์กับกรอบการดำเนินงานระดับสากล เช่น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในประเด็นที่ 3 : Good Health and Well - Being และกรอบการดำเนินงานของ ASEAN University Network – Health Promotion Network (AUN-HPN) ความร่วมมือจากเครือข่ายทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ก้าวสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต” ที่จะเป็นต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในระดับชาติ และนานาชาติต่อไป” ผู้อำนวยการสำนัก 8 กล่าว
ด้านศ.ดร. ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงวิสัยทัศน์โครงการ "มหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต" ว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของนักศึกษาและบุคลากร โดยสะท้อนว่า “สุขภาวะ” ไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนบุคคล แต่เป็นวาระเชิงยุทธศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง
รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ประธานกรรมการอำนวยการโครงการ กล่าวว่า โครงการนี้ประสบความสำเร็จเป็นผลมาจากการทำงานร่วมอย่างเป็นระบบ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้จัดกิจกรรมที่ครอบคลุมทุกมิติ เช่น สุขภาวะทางกาย: โครงการ "TU Future Wellness Fit Journey" มีผู้เข้าร่วม 120 คน สามารถเพิ่มการออกกำลังกายได้เฉลี่ยจาก 1 วันเป็น 3 วันต่อสัปดาห์ ภายในระยะเวลา 12 สัปดาห์ และช่วยลดความเครียดพร้อมกับเพิ่มคุณภาพการนอนหลับที่ดีขึ้น สุขภาวะทางใจ: มีการจัดกิจกรรม "Mental Health Check-up Day" ซึ่งเข้าถึงนักศึกษาและบุคลากรมากกว่า 620 คน และสามารถส่งต่อผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลได้อย่างทันท่วงที สุขภาวะทางสังคม: จัดกิจกรรม "Thammasat Hackathon: Future Wellness" เพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาวะใหม่ ๆ เช่น แอปพลิเคชัน Nous (นูซ) สำหรับส่งเสริมสุขภาพจิต สุขภาวะทางสิ่งแวดล้อม: จัดแคมเปญรณรงค์ "ไม่เร็ว ไม่ล้ม ไม่ก้มดูจอ" เพื่อลดอุบัติเหตุจากการจราจรในพื้นที่ ซึ่งพบว่าสามารถลดได้ถึง 55% ต่อเดือน รวมทั้งยังมีกิจกรรม "เน้นสุข ไม่เน้นสูบ" เพื่อให้มหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
“อีกหนึ่งความสำเร็จคือการพัฒนา TU Future Wellness Application ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักในการเก็บข้อมูลสุขภาวะและให้บริการด้านสุขภาพ มีผู้ใช้งานกว่า 6,000 คน และมีการส่งต่อเข้าสู่ระบบบริการสุขภาพจิตแล้วกว่า 1,200 คน ถือเป็นเครื่องมือดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมไปถึงการประเมินผล ทั้งประเด็นสุขภาวะจิตเบื้องต้น , การติดบุหรี่ , ดัชนีความสุข และมิติสุขภาวะเฉพาะด้านกว่า 10 รูปแบบ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินตนเองและรับคำแนะนำได้อย่างตรงจุด” รศ.นพ.พฤหัส กล่าว
ด้านผศ.ดร.ธันยพร สุนทรธรรม หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า โครงการได้จัดทำ “นโยบายมหาวิทยาลัยสุขภาวะดีแห่งอนาคต” ซึ่งเป็นกรอบที่ให้หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยนำไปปรับใช้ได้จริง อีกทั้งยังได้กำหนด เกณฑ์การประกันคุณภาพสุขภาวะ 4 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะเป็นส่วนหนึ่งของระบบประกันคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัย เพื่อสานต่อให้กลายเป็น “รากฐานสุขภาวะ” ของธรรมศาสตร์ในระยะยาว และมีฐานข้อมูลสุขภาวะที่ชัดเจนสำหรับเป็นเครื่องมือในการวางแผนดูแลนักศึกษาและบุคลากร ทั้ง 4 ศูนย์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสุขภาวะได้อย่างเท่าเทียม และจะพัฒนานวัตกรรมอย่าง TU Future Wellness App จัดเก็บข้อมูลด้านสุขที่ครอบคลุมในหลายมิติมากยิ่งขึ้น