สุขภาวะเพื่อทุกคน: ยินดีต้อนรับ Pride Month ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง และที่ทำงานที่ห่วงใยสุขภาพกายใจของทุกคน

02/06/2025 กิจกรรมที่น่าสนใจ, ข่าวประชาสัมพันธ์ 94
Share:

ในเดือนมิถุนายนของทุกปี "Pride Month" เป็นช่วงเวลาที่เราร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศ และย้ำเตือนถึงคุณค่าของความเท่าเทียมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน ไม่ว่าจะมีเพศวิถี อัตลักษณ์ทางเพศ หรือรูปแบบความรักแบบใดก็ตาม

สำนักสุขภาวะองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ขอยินดีต้อนรับ Pride Month ด้วยการเชิญชวนให้องค์กรในประเทศไทยหันมาให้ความสำคัญกับ “สุขภาวะที่ครอบคลุมและเป็นธรรม” ภายใต้แนวคิด Happy Workplace หรือ องค์กรสุขภาวะซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงการมีสวัสดิการหรือกิจกรรมที่ดีเท่านั้น แต่รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เป็นมิตร และเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้เป็นตัวของตัวเองโดยไม่มีการตีตราหรือกีดกัน

ทำไมต้องพูดถึงสุขภาวะของกลุ่ม LGBTQIA+ ในองค์กร?

แม้ในหลายพื้นที่ของโลก ความเข้าใจและการยอมรับความหลากหลายทางเพศจะเติบโตขึ้นมาก แต่ในความเป็นจริง กลุ่ม LGBTQIA+ ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย เช่น:

  • อัตราการเป็นโรคซึมเศร้า วิตกกังวล และการพยายามฆ่าตัวตายที่สูงกว่า
  • การถูกเลือกปฏิบัติ กลั่นแกล้ง หรือขาดโอกาสในการเติบโตทางวิชาชีพ
  • ความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่กล้าเปิดเผยตัวตนในที่ทำงาน

ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของบุคลากรเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน บรรยากาศในทีม และภาพลักษณ์ขององค์กรในระยะยาว

ในขณะเดียวกัน องค์กรที่เปิดรับและส่งเสริมความหลากหลายอย่างจริงจัง กลับพบว่า:

  • มีระดับความผูกพันของพนักงาน (employee engagement) ที่สูงขึ้น
  • สร้างนวัตกรรมและมุมมองใหม่ๆ ได้ดีกว่า
  • ดึงดูดและรักษาบุคลากรคุณภาพได้ดีขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าและความยุติธรรมทางสังคม

Happy Workplace: จากแนวคิดสู่การลงมือทำ

การสร้าง Happy Workplace ที่แท้จริงในบริบทของความหลากหลายทางเพศ ควรประกอบด้วยมิติเหล่านี้:

  1. นโยบายที่ชัดเจนและครอบคลุม
    เช่น นโยบายป้องกันการเลือกปฏิบัติที่ครอบคลุมกลุ่ม LGBTQIA+ และการปรับรูปแบบสิทธิประโยชน์ (benefits) ให้สอดคล้องกับความหลากหลายของครอบครัว
  2. วัฒนธรรมองค์กรที่เคารพและรับฟัง
    สร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกและการสนทนาโดยไม่ตัดสิน พร้อมส่งเสริมภาวะผู้นำที่เข้าใจความหลากหลาย
  3. การส่งเสริมสุขภาพจิตและสุขภาพกายอย่างครอบคลุม
    บริการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาที่ไวต่อความหลากหลายทางเพศ และกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ทุกคนเข้าร่วมได้โดยไม่มีการแบ่งแยก
  4. การสื่อสารภายในที่มีความหมาย
    ใช้ภาษาที่ครอบคลุมและไม่จำกัดเพศ พร้อมสื่อสารในช่วง Pride Month หรือวันสำคัญอื่นๆ เพื่อแสดงจุดยืนขององค์กรในการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน

ตัวอย่างแนวปฏิบัติที่ดีจากองค์กรที่ขับเคลื่อนความหลากหลาย

  • Patagonia
    บริษัทเสื้อผ้ากลางแจ้งจากสหรัฐฯ ยึดหลัก “Bring your whole self to work” ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงตัวตนอย่างแท้จริง พร้อมสนับสนุนสวัสดิการ เช่น วันลาครอบครัวหลากหลายรูปแบบ และการฝึกอบรมด้าน unconscious bias และการอยู่ร่วมในวัฒนธรรมองค์กรแบบเปิด
  • กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต
    เป็นหนึ่งในองค์กรในไทยที่ประกาศจุดยืนชัดเจนในการสนับสนุนความหลากหลายและการมีส่วนร่วม (DE&I: Diversity, Equity & Inclusion) ผ่านกิจกรรม Pride Month การให้สิทธิประโยชน์ด้านประกันสุขภาพและชีวิตที่ครอบคลุมคู่ชีวิตเพศเดียวกัน รวมถึงการมี Employee Resource Group (ERG) ที่ช่วยขับเคลื่อนความเข้าใจในหมู่พนักงาน
  • Unilever
    มีนโยบายการจ้างงานและพัฒนาบุคลากรที่คำนึงถึงความหลากหลายทุกมิติ และได้รับการยอมรับจากหลายเวทีด้านความเสมอภาคทางเพศและ LGBTQIA+ inclusion เช่น การให้ความรู้แก่หัวหน้างาน การสร้างพันธมิตรภายในองค์กร และการออกแบบพื้นที่ทำงานที่เป็นมิตรต่อทุกกลุ่มเพศ

การเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง

ในฐานะผู้นำองค์กร การเปิดใจรับฟังและตระหนักถึงประสบการณ์ที่แตกต่างของผู้คน คือจุดเริ่มต้นสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมและสุขภาวะในระดับลึก การส่งเสริม Happy Workplace สำหรับทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่ภารกิจด้านทรัพยากรบุคคล แต่คือบทบาทเชิงสังคมขององค์กรที่มุ่งสร้าง “ที่ทำงาน ที่เป็นชุมชน และเป็นสังคมที่ดี”

ขอเชิญชวนผู้บริหารองค์กรทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรแห่งความสุขที่เห็นคุณค่าของความหลากหลายและศักยภาพของทุกคน

Happy Pride Month!
ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ทุกคน

สำนักสุขภาวะองค์กร สสส.